ฝรั่งเศสได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับวันหยุดพักผ่อนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยภูมิประเทศที่หลากหลายและสมบัติทางศิลปะมากมายให้ค้นพบ ภูมิภาคหนึ่งที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการควรไปเยือนฝรั่งเศสคือ Provence (โพรวองซ์) ด้วยสภาพอากาศที่อบอุ่น ขอบฟ้าแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่ส่องประกาย เมืองที่มีความซับซ้อน และชนบทที่รกร้างว่างเปล่า เต็มไปด้วยภูเขา ที่นี่เราจะพาคุณไปสำรวจเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดและสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมกับ 7 เมืองน่ารักใน Provence เมืองแสนสวยที่คุณไม่ควรพลาด
1. Antibes
เรือยอทช์สุดหรู หาดทรายสีทองทอดยาว และกลิ่นอายของ French Riviera ล้วนทำให้ Antibes เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เดินสำรวจกำแพงหินสมัยศตวรรษที่ 16 อันแสนโรแมนติกและถนนปูด้วยหินแคบๆ เรียงรายทั่วอาคารที่ประดับด้วยดอกไม้มองแล้วสดชื่น คุณจะเห็นได้ว่าทำไมที่นี่จึงดึงดูดศิลปินและนักเขียน เช่น Graham Greene, Monet และ Picasso ผู้ซึ่งเป็นอัจฉริยะ มีผลงานของเขาแสดงอยู่ที่ Musée Picasso สถาปัตย์กรรมในยุคกลางเช่น ปราสาทกรีมัลดี หรือการไปเยือน Cap d’Antibes นอกเมืองสำหรับชายหาดที่ซ่อนอยู่ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคฤหาสน์เศรษฐีผู้หนึ่ง
2. Menton
สถานที่ที่สะดวกสบายและอบอุ่นโดยอยู่ใกล้ชายแดนอิตาลีระหว่าง Alpes Maritimes และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมุมชายฝั่งทะเลที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักของ Côte d’Azur ปากแม่น้ำที่มีความสุข และการแข่งขันกับเพื่อนบ้านที่มีเสน่ห์ บรรยากาศที่สบายๆ เช่นนี้นำไปสู่ประเพณีการปลูกมะนาวที่มีมายาวนานหลายศตวรรษ ซึ่งควบคู่ไปกับความใกล้ชิดกับอิตาลี ผสมผสานกับอาหารท้องถิ่นจำนวนมาก ใน Menton คุณจะได้ไปเยี่ยมชมท่าเรือเก่าแก่ที่สวยงาม แหงนมองอาคารสีพาสเทล เดินเล่นที่สวนกึ่งเขตร้อนที่มีสีสัน และพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับ Jean Cocteau ซึ่งตั้งอยู่ในป้อมปราการโบราณ
3. Èze
Èze มีแผ่นดินระหว่างโมนาโกและเมืองนีซ ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 420 เมตร (1,400 ฟุต) หมู่บ้านบนยอดเขาฉบับยุคกลางที่สมบูรณ์แบบ โดยมีซากปรักหักพังของปราสาทสมัยศตวรรษที่ 12 ที่ขรุขระอยู่ด้านบน สวนกระบองเพชร Jardin Exotique เส้นทางใกล้เคียงที่คุ้มค่าแก่การเดินลัดเลาะตามทางสูงชัน ซึ่งแวดล้อมไปด้วยพืชอวบน้ำ ต้นมะนาว และพืชเขตร้อนอื่นๆ ยังมีโบสถ์สไตล์บาโรก เมื่อแสงอ่อนๆ ตกกระทบกับตัวโบสถ์ ปรากฏเป็นสีเหลืองเหมือนแสงแดดที่อบอุ่น โบสถ์นี้มีอายุย้อนไปถึงปี 1764 คุณจะพบว่าตัวเองต้องแหงนมองวิวชายฝั่งที่ตระการตาอยู่ตลอดยิ่งคุณปีนขึ้นไปเรื่อยๆ
4. Arles
ที่จุดยอดของอุทยานแห่งชาติ Camargue ในภูมิภาค Provence-Alpes-Côte d’Azur Arles เป็นสถานที่แห่งความคิดถึงของ Van Gogh จิตกรชื่อดัง ผู้มีภาพวาดมากกว่า 200 ผลงาน รอบๆ เมืองโรมันที่น่ารักแห่งนี้ มีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสมัยโรมัน ที่ยูเนสโกจัดให้เป็นมรดกโลกของเมือง Arles หอคอยอะลูมิเนียมบิดเบี้ยวที่ออกแบบโดย Frank Gehry ทำให้สถาปัตยกรรมของเมืองมีความทันสมัย เป็นเหตุผลหนึ่งที่คุณควรมาเยี่ยมชมสถานที่นี้ด้วยตัวของคุณเอง
5. Bandol
อดีตท่าเรือประมงแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน อ่าวที่มีที่กำบังซึ่งมีเนินเขา มีนักเขียนชื่อดังอย่าง Katherine Mansfield และ Thomas Mann เคยมาเยือน ปัจจุบันนี้ Bandol เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสจากมาร์เซย์และตูลงที่อยู่ใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบหาดทรายที่มีแสงแดดสดใส หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวเล็กน้อย ให้ไปที่อ่าวหินและลำธารเล็กๆ ตามแนวชายฝั่งของเมือง เดินเล่นไปตามท่าเรือที่มีต้นปาล์มเรียงราย เลียไอศกรีมลาเวนเดอร์แสนสดชื่น ลองชิมไวน์ท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ โดยเฉพาะไวน์แดงที่ปลูกในไร่องุ่นที่ตากแดดจัด และเพลิดเพลินไปกับชีวิตที่ผ่อนคลายแบบฉบับเมดิเตอร์เรเนียน
6. Uzès
เมืองสุดโรแมนติกและได้ชื่อว่า ‘ขุนนางแห่งแรกของฝรั่งเศส’ เมืองนี้ยังคงมี ‘ดยุค’ อาศัยอยู่ในปราสาทใจกลางเมือง โดยมีที่พักอาศัยแบบฉบับยุคกลาง ถนนที่ปูด้วยหิน สวนที่เฟื่องฟู สถานที่สำคัญอย่าง Tour Fenestrelle ลักษณะเด่นทางประวัติศาสตร์ที่สะดุดตาที่สุดคือปงต์ดูการ์ดที่อยู่ใกล้เคียง มีท่อระบายน้ำโรมันที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนฝรั่งเศส น่าแปลกที่ Uzès ยังคงไม่ค่อยรู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก แต่ถ้าคุณอยากเยี่ยมชมเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นฝรั่งเศสแท้ๆ ก็ต้องที่นี้เลย
7. Lourmarin
สุสานยุคหินใหม่ ซากเมืองโรมัน คฤหาสน์ยุคเรอเนสซองส์อันยิ่งใหญ่ และบ้านหินแปลกตา Lourmarin จึงเป็นประวัติศาสตร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาอันเขียวชอุ่มในเทือกเขา Luberon เป็นสถานที่สำหรับผู้รักศิลปะและหนอนหนังสือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอศิลป์ รวมถึงสุสานของนักเขียน Albert Camus และ Henri Bosco ถ้าคุณชอบอาหารที่คุณอยู่ในโคลเวอร์ เมืองนี้มีบิสโตรและคาเฟ่แบบดั้งเดิม และนอกจากนี้ยังมีเชฟ Reine Sammut หนึ่งในเชฟที่มีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศสดูแลร้านอาหาร Auberge La Fenière กับลูกสาวของเธอในอาคารเก่าแก่ที่อยู่นอกเมือง เปิดประสบการณ์รสชาติแบบฉบับฝรั่งเศส
7 เมืองใน “โพรวองซ์” ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันเก่าแก่รวมไว้ตั้งแต่ยุคกลาง บาโรก รักษายาวนานมาจนถึงปัจจุบันให้พวกคุณได้ย้อนอดีตชื่นชมความงาม ลิ้มรสอาหารและบรรยากาศแบบฝรั่งเศส หยุดพักผ่อนและซึมซับแรงบันดาลใจจุดกำเนินของจิตกรชื่อดัง และอีกเหตุผลที่ Provence เมืองแสนสวยที่คุณไม่ควรพลาด เพราะยังมีเมืองน่ารักๆ อีกมากมายที่หยิบยกมาคงไม่หมด thaiguru
แหล่งที่มาและรูปภาพ: https://theculturetrip.com