
อาหารแปดอย่างที่ชวนทำให้คิ้วขมวดได้ จัดอันดับโดยนักเดินทางที่ท่องเที่ยวไปรอบโลกแล้วพบเจออาหารแปลกตาแต่ก็น่าลิ้มลอง บางคนแค่เห็นก็อยากแหวะแล้ว แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและอยากสัมผัสรสชาติที่แปลกใหม่ เลยจัดอันดับ 8 อาหารสุดแปลกที่ท้าให้คุณได้ลิ้มลอง
1. Jellied moose nose, Canada
หน้าตาดึ๋งๆ คล้ายเยลลี่ และใช่มันคือเยลลี่แต่เป็นเยลลี่ที่ทำมาจากจมูกของกวางมูส ชาวแคนนาเดี่ยนผู้รักการผจญภัยได้ทำการทดลองทำอาหารจากจมูกกวางมูสด้วยการต้มกับหัวหอมและเครื่องเทศ นำมาถอนขนและต้มอีกครั้งจากนั้นเติมน้ำซุปและทำให้มันเป็นก้อนเยลลี่
2. Huitlacoche, Mexico
หน้าตาดูน่าทานใช่ไหมล่ะ แต่คุณต้องรู้ก่อนว่ามันทำมาจาก เชื้อราที่เติบโตบนเมล็ดข้าวโพด ที่จะถูกเก็บเกี่ยวช่วง 2-3 สัปดาห์หลังข้าวโพดติดเชื้อ ลักษณะและกลิ่นที่คล้ายกับเห็ดมีสีฟ้าอมเทาบางขาว ฟังดูเหมือนอาหารน่าขยะแขยงแต่เนื้อสัมผัสของมันมีความนุ่มและรสชาติเผ็ดร้อนและยังคงมีกลิ่นของความเป็นข้าวโพดอยู่ ชาวแม็กซิกันยังบอกอีกว่า ฮุยลาโคเช มีโปรตีนที่สูงที่สุดในตระกูลเห็ดและยังมีกรดอะมิโนไซลีนที่หาแทบไม่ได้ในข้าวโพดปกติธรรมดา
3. Casu marzu, Italy
ถ้าดูจากในภาพก็คงคิดว่ามันก็ไม่เห็นจะว้าวตรงไหน เป็นก้อนชีสธรรมดาๆ แต่เหล่า Cheese lover คงต้องเคยได้ยินชื่อชีสชนิดนี้มาอย่างแน่นอน และอยากลิ้มลองมันสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเจ้าชีสคาสุ มาร์ซู หรือ “ชีสเน่าหนอน” ที่ทำมาจากนมแพะ ความพิเศษของมันอยู่ที่การบ่มหมักและจงใจเจาะรูเล็กๆ ไว้ให้แมลงวันมาวางไข่จนเกิดตัวอ่อนหนอน ตัวอ่อนพวกนี้จะทำหน้าที่ชอนไชให้ไขมันแตกตัว เพื่อทำให้สัมผัสของชีสมีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ทานคู่กันดีกับไวน์รสหวานและประกอบอาหารประเภทอบชีส คนรักชีสคนไหนอยากลิ้มรส ไปสัมผัสได้เลยที่เกาะ Sardinia อิตาลี
4. Muktuk, Greenland
ดูๆ ไปคงเหมือนเนื้อธรรมดาๆ กันใช่ไหมล่ะ แต่แท้ที่จริงแล้วเนื้อชนิดนี้คือหนังและไขมันของ “วาฬ” อาหารของชาวเอสกิโมดั้งเดิม เป็นเนื้อวาฬแช่แข็ง เสิร์ฟทั้งแบบดิบและแบบดอง ตัวผิวหนังจะมีรสชาติเหมือนเฮเซลนัท ส่วนของไขมันมีความเคี้ยวหนึบๆ ชาวกรีนแลนด์กล่าวว่า เนื้อวาฬนี้เป็นแหล่งวิตามิน C และ D ที่ดี แต่บางทีก็อย่ากินถ้าใส่ฟันปลอมเพราะมันเหนียวสุดๆ ไปเลย
5. Hakarl, Iceland
อันดับที่ 5 ส่งตรงมาจากประเทศไอซ์แลนด์ เป็นเมนูขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นสุดเหม็นจนต้องปิดจมูก “ฮาคาร์ล” เป็นอาหารที่ชาวไอซ์แลนด์นิยมทานเฉพาะกลุ่ม เพราะขนาดชาวไอซ์แลนด์บางคนยังรู้สึกขยาดกับการทานมัน เนื่องด้วยกลิ่นแอมโมเนียที่เกิดขึ้นระหว่างการหมัก กรรมวิธีการทำนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร นำไส้และตัดหัว…วางไว้ในหลุมตื้นๆ ที่ปูด้วยหินและทรายทิ้งไว้ 2-3 เดือน จากนั้นก็นำมาตากทิ้งไว้อีกหลายเดือนจนแห้งก่อนนำมาทานได้ หลายๆ คนคงอยากรู้แล้วว่ามันคือเนื้ออะไรกัน มันจะว้าวได้ยังไง คำตอบก็คือ ฮาคาร์ลนั้นทำมาจากเนื้อของ “ฉลาม” นั้นเอง
6. Salo, Ukraine
ซาโล อาหารประจำท้องถิ่นของชาวยูเครน ดูแล้วก็ไม่น่าว้าวอะไรเลย และใช่สำหรับบางคนมันไม่ได้ว้าวขนาดนั้น แต่ในบางก็รับไม่ได้ที่จะทานเข้าไป เพราะนี้คือ “มันหมู” เป็นมันล้วนๆ มันเน้นๆ ติดเนื้อบางๆ คล้ายๆ พวกเบคอน แต่มีกรรมวิธีการปรุงต่างกัน ตัวซาโลนิยมโรยด้วยพริกปาปริก้าหรือเครื่องปรุงรสอื่นๆ สามารถทานได้ทั้งดิบและสุก ทานแกล้มกับกับขนมปังไม่ขัดสี ไม่ควรเป็นขนมปังขาว ตบด้วยเหล้าขาววอดก้า อิ่มครบจบเดียว
7. Stargazey Pie, England
“สตาร์เกซี่ พาย” พายปลาแหงนมองฟ้าหน้าตาชวนงง ต้นกำเนิดจากหมู่บ้าน Mousehole อยู่ใน Cornwall เมนูขึ้นชื่อชองชาวอังกฤษนิยมทานกันในการเฉลิมฉลองเทศกาล Tom Bawcock ผู้ริเริ่มอบพายชนิดนี้เพื่อช่วยให้คนในหมู่บ้านรอดพ้นจากความอดยากในช่วงพายุฤดูหนาว ปลาที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นปลาซาดีน หรือปลาคอด แต่ดูๆ แล้วก็น่าลองทานอยู่เหมือนกันนะ
8. Locusts, Israel
ตั๊กแตนทอด อาหารสุดว้าวลำดับสุดท้าย แต่ก็ไม่ว้าวเท่าไหร่สำหรับคนไทยอย่างเรา เดินตลาดนัดก็มีร้านแมลงทอดให้เลือกหลายชนิดอยู่แล้ว แต่สำหรับนักเดินทางชาวต่างชาติที่ไปอิสราเอลเขาว่ามันว้าวและแปลกสำหรับเขา ต้นกำเนิดของการกินตั๊กแตนนั้น เกิดเพราะช่วงหนึ่งในอิสราเอลมีโรคระบาดจากฝูงตั๊กแตน พวกเขาแก้ปัญหาโดยการนำมาทอดกินซะเลย จะชุบแป้งหรือจะเคลือบด้วยช็อกโกแลตก็อร่อยดี
8 จานสุดแปลกการันตีโดยนักท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสมาด้วยตัวเองว่าคุณต้องไปลิ้มลองจริงๆ ใครมีความกล้ามากพอที่จะลองเมนูเหล่านี้ก็เชิญเลยกับ 8 อาหารสุดแปลกที่ท้าให้คุณได้ลิ้มลอง
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์