การรับประทานผักเป็นหนึ่งสิ่งที่เหล่ากูรูด้านสุขภาพต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ควรบริโภคมากที่สุดและทานให้หลากชนิดหลากสีสัน เมื่อพูดถึงสีสันของผักหลายๆคนอาจนึกถึงสีของผักชนิดนี้เป็นอย่างแรก สีส้มของแครอท สีสันสดสวยชวนลิ้มลอง ทำได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบกินแครอทหรือคนที่กินแครอทไม่บ่อยคุณพลาดมากเพราะ 5 เหตุผล ทำไมถึงควรกินแครอทให้มากขึ้น เหตุผลห้าข้อที่อยากให้คุณรู้ว่าการกินแครอทมันดียังไง จนคุณต้องรีบไปซื้อเจ้าผักส้มมาติดตู้ไว้แน่นอน
1. แครอทมีประโยชน์ต่อดวงตา
ผักจำพวกรากและหัวนั้นเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานสูงสุดของอวัยวะต่างๆในร่างกาย และผักที่มีชื่อเสียงที่สุด แครอทอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน (สารประกอบที่ทำให้แครอทมีสีส้มสดใส) ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกายของเรา วิตามินเอน่าจะเป็นที่รู้จักมากที่สุดสำหรับบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพดวงตาและการมองเห็นให้ดี และการได้รับวิตามินเออย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพของเม็ดสี แครอทดิบสับครึ่งถ้วย เป็นการเสิร์ฟวิตามินเอมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่
2. แครอทดูแลผิวให้แข็งแรง
นอกจากช่วยบำรุงดูแลในการมองเห็นให้คุณแล้ว วิตามินเอยังมีความจำเป็นในการปกป้องผิวให้แข็งแรงอีกด้วย มีงานวิจัยพบว่าผู้ที่บริโภควิตามินเอและแคโรทีนอยด์มากขึ้นลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง การรับประทานแครอทเป็นประจำ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งสารอาหารที่ดีที่สุดของโปร-วิตามินเอ แคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีน นอกไปจากนี้การบริโภคแครอทยังสามารถช่วยให้แน่ใจว่มอบวิตามินเอเพียงพอให้แก่ร่างกาย
3. แครอทดีต่อลำไส้
แครอทมีไฟเบอร์ 2 กรัมต่อการเสิร์ฟครึ่งถ้วย ซึ่งเป็นส่วนผสมของเส้นใยที่ละลายน้ำได้ (ในรูปของเพคติน) และเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้สามารถชะลอความเร็วการทำงานของกระเพาะอาหารของเราได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มหลังอาหาร ไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำมีหน้าที่ช่วยป้องกันอาการท้องผูกโดยการเพิ่มปริมาณกากใบให้กับอุจจาระของเรา เมื่อนำมารวมกัน แครอทเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการรักษาระบบย่อยอาหารให้แข็งแรงและสุขภาพดี
4. แครอทมีประโยชน์ต่อหัวใจ
การกินแครอทนอกจากส่งเสริมสุขภาพดวงตา ดูแลผิวให้แข็งแรง ช่วยระบบย่อยอาหารแล้ว แครอทยังมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด แครอทอุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ที่ต้านโรคด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ เช่น แคโรทีนอยด์และโพลีฟีนอล ผักสีส้มสดสวยนี้ยังมีศักยภาพในการป้องกันโรคหัวใจและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น คอเลสเตอรอลสูงอีกด้วย
5. แครอทเป็นมิตรกับกลูโคส
ทุกคนทราบกันดีว่าในกระแสเลือดมีกลูโคสอยู่ ยิ่งถ้ากินอาะไรที่หวานๆมากๆไปกระตุ้นกลูโคสจะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและอ้วนง่าย แต่สำหรับแครอทนั้นมีผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งนั้นทำให้เป็นอาหารที่ดีสำหรับทั้งผู้ป่วยโรคเบาหวานและทุกคนที่ต้องการจะหลีกเลี่ยงการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ช่วยให้สุขภาพต่างๆในร่างกายดีขึ้น ซึ่งรวมไปถึงน้ำหนัก ระดับพลังงาน และอารมณ์
ขอแนะนำปริมาณที่ควรบริโภคและวิธีกินสำหรับใครที่คิดไม่ออกว่าควรนำแครอทไปทำยังไงดี โดยผู้ใหญ่ควรรับประทานแครอทสด 2 – 3 ถ้วยต่อวัน การย่างแครอทในเตาอบด้วยน้ำมันมะกอกและเกลือ (น้ำผึ้งเล็กน้อยหรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ล) ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหากไม่ชอบกินสด การทำแครอทให้สุกสำหรับการปรุงอาหารช่วยเพิ่มปริมาณเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้เพิ่มขึ้น นอกไปจากนี้หากสับแครอทเพิ่มลงในขนมอบ เป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับขนมของคุณได้ คุณยังสามารถดองหรือขูดแครอทของคุณแล้วใส่ลงในสลัด หรือใส่ลงในสตูแล้วปล่อยให้ความร้อนดึงรสชาติตามธรรมชาติออกมาเพื่อเพิ่มรสชาติหวานจากแครอทให้กับน้ำซุปของคุณได้ จะสกัดดื่มหรือปั่นรวมกับผักผลไม้ก็เป็นเครื่องดื่มสดชื่นให้คุณได้ thaiguru
สรุป 5 เหตุผล ทำไมถึงควรกินแครอทให้มากขึ้น อีกหนึ่งสิ่งที่อยากให้รู้การทานแครอทมากเกินความจำเป็นนั่นก็ไม่ดี เพราะในแครอทมีเบต้าแคโรทีน และหากร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีนที่อยู่ในแครอทในปริมาณมากอาจทำให้สีผิวของคุณเปลี่ยนเป็นสีส้มเหลืองได้ แต่ไม่ได้มีอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด ผิวของคุณจะกลับมาสู่สภาพปกติเพียงแค่ลดปริมาณเบต้าแคโรทีนลง และข้อแนะนำอีกอย่างสำหรับแครอทคือ คุณควรซื้อแครอทออร์แกนิกทุกครั้งที่ทำได้ เพราะแครอทมีความสามารถในการดูดซึมสารกำจัดศัตรูพืชจากดินได้ในปริมาณมาก เสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีทางเกษตร และทุกครั้งที่นำแครอทมาทำอาหารควรล่างให้สะอาดเสมอ
แหล่งที่มาข้อมูล: https://www.realsimple.com
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ