อาร์คันซอ เป็นรัฐหนึ่งที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกาและเป็นเมืองที่มากจากการบุกเบิกของฝรั่งเศส ที่นี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ได้แค่พาเที่ยวแต่จะให้รู้จักชื่อเมืองในอาร์คันซอที่แปลกและฟังดูงี่เง่าสุดๆ 10 เมืองในอาร์คันซอที่มีชื่อที่งี่เง่าที่สุด ไม่ว่าจะมาจากความโชคร้าย ความเข้าใจผิด หรือเพียงแค่พลาดมุกตลก บางเมืองในอาร์คันซอก็มีชื่อที่ค่อนข้างงี่เง่า คุณอาจหัวเราะคิกคักเมื่ออ่านแผนที่ แต่เมืองเหล่านี้มีอะไรให้มากกว่าแค่การหัวเราะ
1. Toad Suck
ประวัติการตั้งชื่อที่ขัดแย้งกัน “Toad Suck” เป็นความพยายามอันยิ่งใหญ่ในการออกเสียงวลีภาษาฝรั่งเศสซึ่งหมายถึง “ช่องแคบในแม่น้ำ” เรื่องนี้มีสีสันมากขึ้นคือชาวแม่น้ำในพื้นที่จะนั่งที่โรงเตี๊ยมและ “ดูดวิสกี้จนบวมเหมือนคางคก” เมืองคากคกดูดอาจได้รับการขนานนามว่าเป็น “ชื่อที่โชคร้ายที่สุดในสหรัฐอเมริกา” แต่ผู้คนจากที่นี้ได้รับประโยชน์จากชื่อที่ลืมไม่ลงนี้จริงๆ เมื่อใดก็ตามที่คุณได้เข้าไปเยี่ยมชมเมือง อย่าลังเลที่จะหยุดแวะที่ Toad Suck Bucks เพื่อทานสเต็กย่างแสนอร่อย เข้าร่วมการเฉลิมฉลองที่ไร้สาระในเดือนเมษายนที่ Toad Suck Daze ประจำปีใน Conway ที่อยู่ใกล้ๆกัน
2. Weiner
ชื่อเมืองจะฟังดูตะขิดตะขวงใจเพราะชื่อมีความหมายว่า องคชาต ซึ่งเป็นภาษาพูดของชาวเมกันเขา ถึงอย่างไรคุณจะเที่ยวอย่างสบายใจกับที่นี่ เพราะชาว ไวน์เนอร์ ทุกคนต่างเป็นกันเอง หัวเราะคิกคักขณะที่คุณขับรถไปตามโรงเรียนต่างๆ ของ Weiner, โบสถ์ Weiner และบ้านของ Weiner คุณจะรู้ว่าคุณมาไกลเกินไปแล้วเมื่อไปถึงถนน Weiner Cutoff Road ในเมืองใกล้เคียง เรื่องตลกคุณควรวางแผนการเยี่ยมชมในฤดูใบไม้ร่วงเพื่อให้คุณสามารถเข้าร่วมเทศกาลข้าวอาร์คันซอประจำปี
3. Bald Knob
ต่อด้วยคำพูดที่เสียดสี Bald Knob มักจะทำให้ผู้เยี่ยมชมงงงวยว่าทำไมเมืองนี้จึงเลือกชื่อแปลกๆ สถานที่สำคัญของพื้นที่ซึ่งใช้ในช่วงปลายทศวรรษ 1800 คือหินที่โผล่ขึ้นมาเป็นชั้นๆ เลยเรียกเมืองนี้ว่า “หัวล้าน” (Bald Knob) ชื่อติดอยู่รอบๆเมือง แต่ห้ามพลาด Strawberry Homefest ในเดือนพฤษภาคม
4. Possum Grape
เรียนรู้วิธีประนีประนอมในเมืองเล็กๆ ของ Possum Grape ประชาชนต่างสับสนระหว่างการตั้งชื่อเมืองว่า “พอสซัม” หรือ “องุ่น” มานานกว่าสองทศวรรษ เมืองนี้ไม่ได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการจนกระทั่งปี 1954
5. Booger Hollow
บูเกอร์ที่แปลกว่า ขี้มูก และ โฮโลว์ ที่หมายถึง กลวง,โบ๋ เมืองขี้มูกกลวงได้ยินชื่อก็อดขำไม่ได้แล้ว เมื่อเข้าไปในเมือง คุณจะผ่านป้ายที่เขียนว่า “Population 7…countin’ one coon dog.” ดูงี่เง่าเพิ่มไปอีก แต่ที่ Booger Hollow มีสถานที่ให้ถ่ายภาพมากมายและความแปลกใหม่ที่ไม่มีรสนิยมที่ดีในโพสต์ซื้อขายของพวกเขา เป็นเมืองที่หรรษาสุดๆ
6. Cotton Plant
เมืองเล็กๆชื่อน่ารักว่า ‘ต้นฝ้าย’ ที่น่ารื่นรมย์แห่งนี้เป็นเจ้าภาพจัดงานวันปลูกฝ้ายประจำปีในปลายเดือนสิงหาคม ที่มาของชื่อนี้เกิดจาก วิลเลียม อี. ลินช์ ชายชาวมิสซูรีเข้ามาในพื้นที่ในปี 1846 เพื่อเปิดโพสต์ซื้อขาย เรื่องมีอยู่ว่าเขาทำเมล็ดฝ้ายตกโดยไม่ได้ตั้งใจขณะขนถ่ายเสบียงสำหรับร้าน ฝ้ายเป็นสิ่งแปลกใหม่ในพื้นที่ ดังนั้นเมื่อมันแตกหน่อใกล้ร้าน คนในชุมชนก็ติดใจ พวกเขาเริ่มเรียกเสาการค้าว่า “โรงงานฝ้าย” ชมที่มาของเมืองเพิ่มได้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Cotton Plant
7. Fifty-Six
ชื่อที่ได้จากการคำนวณเส้นทางรวมกันเป็น Fifty-Six นั้นคุ้มค่าแก่การขับอย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่ใช่ชื่อเมืองที่อุกอาจเลย แต่ Fifty-Six (และ Forty-Four) ก็ดูจะดูงี่เง่าอยู่เสมอ คุณจะดีใจที่ได้ให้โอกาส 56 คนหลังจากสำรวจถ้ำ Blanchard Springs อันตระการตา
8. Flippin
Flippin Air Expo งานที่จะเกิดขึ้นทุกเดือนเมษาฯ แต่ทุกเวลาเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม เช่นเดียวกับ Weiner Flippin เป็นอีกเมืองหนึ่งที่สนุกกับการอธิบายสิ่งที่คุณเห็น ขับรถไปตามโบสถ์ Flippin Christian หรือฟังการฝึกวงโยธวาทิตของ Flippin เราแค่เสียใจที่พวกเขาไม่ได้ตัดสินใจว่าแพนเค้กควรเป็นมาสคอตของโรงเรียน Flippin เป็นคำสถบที่ใช้แทนคำว่า F*cking แหมแต่มันก็อุกอาจไปสำหรับชื่อเมือง
9. Smackover
ชื่อนี้มาจากการเรียกทับศัพท์จากชาวฝรั่งเศสเรียกพื้นที่นี้ว่า “SUMAC COUVERT” ซึ่งแปลว่า “ปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้” เลยกลายมาเป็น SMACKOVER เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของทุ่งน้ำมันที่เฟื่องฟูของเมือง ตลอดจนทรัพย์สินทางธรรมชาติอื่นๆ ที่พิพิธภัณฑ์ทรัพยากรธรรมชาติอาร์คันซอ หรือหากคุณกำลังวางแผนล่วงหน้า ลองไปที่ Oil Town Festival เป็นหนึ่งในเทศกาลที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐ!
10. Oil Trough
‘รางน้ำมัน’ ชื่อนี้มาจาก กลุ่มนักล่าได้จับหมีมากกว่าหนึ่งร้อยตัวในพื้นที่ พวกเขาต้องสร้างรางน้ำชั่วคราวเพื่อกักเก็บน้ำมันจากสัตว์จำนวนมากจนกว่าจะสามารถจัดเตรียมการขนส่งได้ รางไม้ถูกทิ้งไว้ในพื้นที่และกลายเป็นเครื่องหมายสำหรับทุกคนที่เดินทางผ่าน ถึงชื่อจะแปลก แต่ไม่มีอะไรดีเท่ากับอาหารจาก Sissy’s Diner และ Pizza Pit ใน Oil Trough
สรุป 10 เมืองในอาร์คันซอที่มีชื่อที่งี่เง่าที่สุด เมืองทั้งหมดนี้ถึงชื่อจะฟังแปลกและงี่เง่าสุดๆ แต่ทั้งหมดควรค่าแก่การไปเยือน ไปเยี่ยมชมเก็บประสบการณ์เดินทางเป็นที่สุด thaiguru
เครดิต : เว็บสล็อต