ความเชื่อผิด ๆ ที่ถูกสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ในอดีตคือการที่เรายิ่งกินของหวานซึ่งก็หมายถึงการนำน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากจะยิ่งทำให้เรามีโอกาสเป็นเบาหวานสูงยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วของวงการแพทย์กว่าว่า “ไม่กินน้ำตาลก็เบาหวานได้” ซึ่งความรู้ใหม่นี้อาจทำให้ทุกท่านถึงกับตะลึงว่ามันจะเ)นไปได้อย่างไร เพราะเมื่อเราไม่กินน้ำตาลเราก็ต้องไม่เป็นเบาหวาน เพราะเบาหวานเกิดจากน้ำตาล
น้ำตาล คือ สารให้ความหวานที่ถูกผลิตจากพืชเป็นหลัก ซึ่งสารความหวานนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาเป็นครั้งแรกเมื่อ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล หลังจากนั้นก็ถูกแผ่ขยายอิทธิพลเรื่อยมาจนถึงฝั่งเอเชีย ไทยเราเองก็ได้รับการส่งต่อความหวานมาอย่างยาวนาน จึงจะสังเกตได้จากเมนูอาหารหวานคาวมากมาย รวมถึงเมนูขนมหวานที่แทบจะทุกชนิดจากต้องมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก ด้วยเหตุเดียวกันนี้เองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคนไทยมีอัตราการป่วยเป็นโรคเบาหวานจากการบริโภคน้ำตาลเป็นจำนวนมาก
น้ำตาลคือภัยร้าย อันตรายกว่า ยาเสพติด
เมื่อถึงประโยคที่ว่าน้ำตาลอันตรายกว่ายาเสพติดก็ดูเหมือนจะไม่กล่าวเกินจริงไปนัก เพราะแพทย์หลายท่านต่างออกมาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำตาลนั้นเสพติดได้ง่ายกว่ายาเสพติดเป็นสิบเท่า และการเลิกเสพของหวานก็ดูเหมือนจะยากกว่ายาเสพติดด้วยเช่นกัน เนื่องด้วยปัจจุบันสภาพสังคมไทยเต็มไปด้วยร้านอาหารตามส่งที่สามารถหาได้ทุกที่ทุกเวลา และส่วนประกอบหลักในการทำอาหารของไทยก็จะมี น้ำปลา พริก ผงชูรสและน้ำตาล ทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็น น้ำ ขนม อาหาร ทุกสิ่งอย่างล้วนแต่ถูกเพิ่มเติมด้วยน้ำตาลทั้งสิ้น และที่สำคัญยังมาจากความเชื่อผิด ๆ ของผู้ปกครองที่มักจะให้ลูกน้อยทานของหวานเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าเด็กนั้นชอบความหวาน และความหวานเองก็ยังเป็นอาหารรสชาติเดียวที่ทานง่ายที่สุด ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนไทยจึงมีอัตราการเป็นโรคเบาหวานสูง และอย่าพึ่งเข้าใจผิดคิดว่ากินตอนเด็กแล้วค่อยไม่หยุดเอาตอนแก่ เพราะแม้ว่าเด็กจะมีอัตราการเผาพลาญที่สูงกว่าด้วยการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน แต่ก็มีเด็กไทยจำนวนไม่น้อยที่เป็นเบาหวานตั้งแต่ยังเด็ก
ไม่กินน้ำตาลจะช่วยลดการเป็นเบาหวานได้จริงหรือ?
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากมายที่ถูกผลิตออกมาโดยใช้สารแทนความหวาน ซึ่งกระบวนการผลิตนั้นก็มาจากหลากหลายแหล่งผลิตทั้งจากพืชและสารเคมี ทำให้เราเลือกที่จะเปลี่ยนการบริโภคน้ำตาลชนิดเดิมมาเป็นสารให้ความหวานแทน ซึ่งจากตรงนี้แพทย์เชื่อว่าจะเป็นอัตรายกว่าการกินน้ำตาลจริงหรือแทบไม่ต่างกันเลย เนื่องจาก เมื่อเราเชื่อว่าสารให้ความหวานไม่ใช่น้ำตาล การบริโภคจึงอยู่ในปริมาณที่มจำกัด เราจึงมักจะทานในปริมาณที่มากเกินกว่าปกติ และที่สำคัญสารให้ความหวานเหล่านี้จะกระตุ้นให้สมองทำงานได้ดีกว่ากว่าในระแรก แต่เมื่อนานวันเข้าจะกลายเป็นการเสพติดจนกระหายอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดอาหารที่รุนแรงกว่า และนอกจากจะอยากของหวานเพิ่มขึ้นแล้วยังทำให้กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอิ่มส่งผลให้เป็นโรคอ้วนตามมา
ไม่กินน้ำตาลแล้วจะเป็นเบาหวานได้อย่างไร
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าน้ำตาลนั้นสามารถถูกกำจัดหรือนำมาใช้ได้ด้วยร่างกายของเราเอง โดยผ่านฮอร์โมนชนิดหนึ่งเรียกว่าอินซูริน ที่จะค่อยหลั่งออกมาเพื่อดึงเอาน้ำตาลไปใช้เป็นผลังงาน ครั้นเมื่อเราเป็นเบาหวานนั่นก็หมายความว่ามีน้ำตาลสะสมในร่างกายเป้นจำนวนมากทำให้อินซูรินผลิตออกมาไม่เพียงพอที่จะนำไปกำจัด จึงทำให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดเกิดเป็นเลือดข้นเหนียวในที่สุด จึงส่งผลกับอวัยวะส่วนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน แต่ในทางกลับกันหากเราไม่ทานน้ำตาลโดยตรงแต่เป้นการเลี่ยงมาทานสารให้ความหวานแทนล่ะ กล่าวคือก็จะมีผลไม่ต่างกันเมื่อทานเข้าไปในปริมาณมาก เนื่องจากสารให้ความหวานก็จะกระตุ้นต่อมรับรสทำให้ร่างกายหลั่งอินซูรินออกมา ทันทีที่อินซูรินถูกหลั่งก็จะทำการตามล่าหาความหวานทันที และหากเมื่อร่างกายทานแล้วไม่พบน้ำตาล เท่ากับว่าอินซูรินนั้นหลั่งออกมามากเกินไปจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยของการกลายเป็นโรคเบาหวานได้เช่นกัน
น้ำตาลคือสิ่งไม่ดีใช่หรือไม่?
หากจะกล่าวโทษน้ำตาลโดยทันทีก็ดูเหมือนจะยุติธรรมเนื่องจากข้อดีของน้ำตาลนั้นก็มีอยู่ เช่น ด้วยดับกระหาย , ช่วยบำรุงงกำลัง , ช่วยฟื้นฟูสมองล้า เป็นต้น แต่ทั้งหมดนั้นล้วนแต่ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมจึงจะเป็นประโยชน์ แต่ในยุคปัจจุบันเป็นยุคของการเร่งรีบ เราจึงนิยมออกไปทานอาหารข้างนอกเสียมากกว่าการประกอบอาหารเองทำให้ไม่สามารถควบคุมปริมาณของวัตถุดิบได้
อย่างไรเสียหากท่านรู้ตัวเองว่าไม่สามารถควบคุมปริมาณอาหารหรือน้ำตาลได้ จงอย่างหวังพึงอินซูรินอย่างเดียวแต่จงออกกำลังเพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกมาโดยตรงก็จะเป็นการช่วยร่างกายในอีกวิธีหนึ่ง และไม่ว่าจะทานอะไรก็อย่าลืมเลือกก่อนทานทุกครั้งเพราะไม่กินน้ำตาลก็เบาหวานได้ thaiguru
เครดิต : สล็อตเว็บตรง