ในยุคที่โลกเจอกับการผันผวนทางเศรษฐกิจและสภาวะอากาศเป็นพิษนี้ ส่งผลให้อุตสาหกรรมการเกษตรย่อมได้ผลผลิตที่น้อยลงจึงทำให้ราคาพืชพันธุ์ต่างๆมีราคาสูงขึ้น ซึ่งทั้งหมดก็เป็นตามกลไกของธรรมชาติ หากท่านเป็นคนหนึ่งที่เข้าครัวทำอาหารอยู่เป็นประจำจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่าของทุกอย่างนั้นมีราคาสูง บางครั้งก็สูงเสียจนเราอาจจะคิดว่าคงไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อ หรือถ้าอยากจะซื้อก็คงต้องรอเอาไว้วันหลัง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าพืชพันธุ์ที่เราเห็นว่ามีราคาสูงอยู่ในตอนนี้นั้นยังเทียบไม่ได้เลยกับบางชนิดที่สูงลิ่วจนน่าตกใจ ฉะนั้นวันนี้เราจึงจะมานำเสนอ 6 พืชผัก ราคาแพงที่สุดในโลก เผื่อเอาไว้ว่าทานอาจจะมีโอกาสได้ลิ้มลอง
การทานผักมีประโยชน์มากมาย เนื่องจากผักเป็นแหล่งวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารอาหารที่สำคัญ ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ปกป้องร่างกายจากอันตราย เพิ่มความเจริญเติบโต และพัฒนาสมอง รักษาสุขภาพร่างกาย ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลายชนิด เสริมระบบย่อยอาหาร และเพิ่มความหลากหลายในอาหารที่รับประทาน ดังนั้น การเพิ่มผักในเมนูอาหารของคุณเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างแน่นอน
อันดับที่ 6 Wasabi Root (วาซาบิ รูท) ราคา หัวละ 700 บาท
เป็นพืชสมุนไพรที่เป็นส่วนสำคัญสำหรับอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมนูซูชิหรือเมนูทานดิบทั้งหลาย ในประเทศญี่ปุ่น Wasabi มักถูกเตรียมในรูปแบบรากสด เมื่อต้องการใช้จะนำมาฝนกับแท่นฝนแบบต่างๆ อาทิเช่น แบบเหล็ก แบบหนังปลากระเบนแห้ง เป็นต้น
นอกจากนี้วาซาบิมีสารที่เรียกว่า isothiocyanate ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งและช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายได้
อันดับที่ 5 Spanish Peas (ถั่วลันเตาสเปน) กิโลกรัมละ 24,000 บาท
“Spanish Peas” หรือ “ถั่วลันเตาสเปน” เป็นพืชที่ได้รับความนิยมมากในสเปน มักถูกนำมาใช้ประกอบอาหารต่างๆหรือแม้แต่เป็นเครื่องเคียง ด้วยรสชาติหวานหอมนี้ทำให้การรับประทานอาหารรู้สึกสนุกมากยิ่งขึ้น การทำ Spanish Peas อาจนำถั่วมาทอดหรือผัดพร้อมกับเครื่องปรุงรสต่าง ๆ และนำมาเสริมรสด้วยน้ำมันงาก็ได้
อันอับที่ 4 Pink Lettuce (ผักกาดหอมสีชมพู) 450 บาท / กิโลกรัม
ด้วยสีสันที่สวยงามของพืชชนิดนี้คือพืชที่อยู่ในตระกูลผักกาด สีออกเป็นสีชมพูหรือสีกุหลาบ เป็นพืชที่เติบโตได้ดีในอากาศเย็น มีกากใยเป็นจำนวนมาก มียางเยอะ มีแหล่งกำเนิดในประเทศอิตาลี
ในร้านอาหารหรูนิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะกับพิซซ่าหรือสลัด ส่วนรสชาตินั้นมีความหวานแต่ให้รสชาติอ่อนมาก อย่างไรก็ตามความพิเศษของมันไม่ใช่เรื่องของรสชาติแต่เป็นสีสันต่างหากที่ถูกนำมาตกแต่งเพื่ออัพราคาขายในจานอาหาร
อันดับที่ 3 Le Bonnotte Potatoes (มันฝรั่ง) ราคา 26,00 บาท / กิโลกรัม
มันฝรั่งเหล่านี้ถูกปลูกและเก็บเกี่ยวด้วยวิธีทำเช่นเดียวกับการปลูกมันฝรั่งทั่วไป ทว่าความพิเศษของมันก็คือ มีรสชาติที่แตกต่าง ให้ความรู้สึกสดชื่นและความหอมหวาน ซึ่งการปลูกในแต่ละพื้นที่จะให้รสชาติที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับคุณภาพของดินที่ปลูก
ส่วนวิธีการนำมาปรุงก็แทบไม่แตกต่างกับมันฝรั่งทั่วไป เพราะมันก็สามารถใช้แทนกันได้ทุกเมนู เพียงแต่ว่ามันชนิดนี้จะถูกจัดอยู่ในร้านอาหารหรูมันจึงดูมีราคาที่สูงกว่านั้นเอง
อันดับที่ 2 Hops กิโลกรัมละ 1,200 – 2,500 บาท
Hops (หรือหมากเหลือง) เป็นพืชที่นิยมปลูกมากในการผลิตเบียร์ เป็นส่วนสำคัญในการเติมรสชาติและกลิ่นให้กับเบียร์ นอกจากนี้ยังมีการใช้ hops ในการผลิตเบียร์ให้มีความเข้มข้นและความสดชื่น เป็นส่วนสำคัญในการผลิตเบียร์เพราะมีหลายบทบาทที่สำคัญ อาทิเช่น ช่วยเพิ่มรสชาติที่หลากหลายและกลิ่นที่หอมหวานให้กับเบียร์ ช่วยสร้างรสชาติที่สมดุล และต้านการบูดเสียโดยธรรมชาติของเบียร์
นอกจากนี้ Hops ยังมีการใช้ในทางการแพทย์ โดยมีส่วนในการช่วยสร้างความผ่อนคลายเป็นส่วนประกอบของสมุนไพรที่ใช้ในการช่วยบรรเทาอาการเครียดและหงุดหงิด และยังใช้เป็นยากล่อมประสาทในผู้ที่หลับยากอีกด้วย
อันดับที่ 1 Yamashita Spinach กิโลกรัมละ 1,000 บาท
“Yamashita Spinach” หรือ “ผักปั่วเล้งญี่ปุ่นยามาชิตะ” เป็นพืชผักที่เป็นที่รู้จักในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมักจะนำมาใช้ในอาหารและสไตล์การทำอาหารญี่ปุ่น เป็นพื้นที่มีคุณประโยชน์และมีสารอาหารสูง มักถูกนำมาทำเป็นอาหารที่หลากหลาย เช่น สลัดผัก, ยำผัก, อาหารต้ม, อาหารทอด หรือการนำมาใช้ในเครื่องปรุงรสแบบต่าง ๆ ในการทำอาหารเอเชียหรืออาหารญี่ปุ่น
ด้วยการเพาะปลูกที่เป็นได้ยากและยังมีในปริมาณที่จำกัดจึงทำให้พืชชนิดนี้มีราคาถูก และจะถูกจัดส่งให้กับเฉพาะร้านอาหารหรูกับเชฟชื่อดังเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าพืชชนิดนี้ยังไม่มีจำหน่ายภายในประเทศไทย
สรุป
แม้ว่าการทานพืชผักจะเป็นประโยชน์ แต่ดูเหมือนว่าผักเหล่านี้จะเป็นโทษเสียมากกว่า โดยเฉพาะกับกระเป๋าสตางค์ อย่างไรก็ตาม การที่ 6 พืชผัก ราคาแพงที่สุดในโลก เหล่านี้มีราคาที่สูงกว่าอย่างน่าตกใจไม่ใช่เพราะมันมีความพิเศษหรือเหนือธรรมชาติแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะความนิยมในการเพราะปลูกและความต้องการของตลาดทำให้ปริมาณที่มีจัดจำหน่ายจึงยังน้อยอันเป็นเหตุให้ราคาดีดตัวขึ้นสูงเป็นธรรมดา ฉะนั้นแล้วการทานผักสวนครัวตามท้องถิ่นของเราก็สามารถให้คุณค่าทางสารอาหารได้ดีเช่นกัน