ประโยชน์ของน้ำตาลที่คุณอาจไม่รู้

การรักษาสุขภาพและการลดน้ำหนักมักจะมีการควบคุมอาหารเป็นส่วนสำคัญ การจำกัดปริมาณน้ำตาลในอาหารเป็นหนึ่งในวิธีที่คนมักทำเมื่อต้องการลดน้ำหนัก แต่รู้หรือไม่ว่าน้ำตาลมีบทบาทสำคัญในร่างกายอย่างไรบ้าง? วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับน้ำตาลรวมถึงความสำคัญและประโยชน์ของน้ำตาลที่ คุณอาจไม่รู้

ความรู้จักกับน้ำตาล

ความรู้จักกับน้ำตาล

ความจริงแล้วน้ำตาลก็คือคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย คาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารที่ร่างกายต้องการนำมาใช้ในแต่ละวัน โดยเฉพาะกับสมองที่ต้องการน้ำตาลมาใช้ และคุณสมบัติพิเศษคือมันช่วยลดความเคลียดได้เป็นอย่างดี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเราจะติดหวานได้ง่ายกว่าติดยาเสพติดเสียอีก โดยน้ำตาล 1 กรัม จะให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี และน้ำตาลสามารถแยกประเภทต่างๆตามโครงสร้างของมัน อาทิเช่น 

  1. น้ำตาลแบบโมโนแซ็คคาร์ไดด์ (Monosaccharides): น้ำตาลแบบนี้เป็นตัวอย่างของน้ำตาลที่มีโครงสร้างง่ายที่สุด และไม่สามารถแยกออกได้เป็นอะตอมคาร์บอนหรือโมเลกุลย่อยอื่น ๆ น้ำตาลโมโนแซ็คคาร์ไดด์รูปแบบที่รู้จักคือ
  • กลูโคส (Glucose): กลูโคสเป็นน้ำตาลหลักในเลือดและเป็นแหล่งพลังงานสำหรับร่างกาย.
  • ฟรักโตส (Fructose): ฟรักโตสเป็นน้ำตาลที่พบในผลไม้และผลไม้หวาน มีรสหวาน
  1. น้ำตาลแบบดิสแอคซ์ (Disaccharides): น้ำตาลแบบดิสแอคซ์ประกอบด้วยโมโนแซ็คคาร์ไดด์สองชนิดที่เชื่อมกันด้วยการเชื่อมต่อโคลลิงค์ น้ำตาลแบบดิสแอคซ์ที่รู้จักมากที่สุดมี
  • ซูโครส (Sucrose): ซูโครสเป็นน้ำตาลปิดปากที่พบในน้ำตาลขาวและผลไม้ ประกอบด้วยกลูโคสและ

ฟรักโตส

  • ลัคโตส (Lactose): ลัคโตสเป็นน้ำตาลที่พบในนมและผลิตภัณฑ์นม ประกอบด้วยกลูโคสและกาลแล็กโตส
  1. น้ำตาลแบบโอลิโกสิและโปลิโอสแอคซ์ (Oligosaccharides and Polysaccharides): น้ำตาลแบบนี้ประกอบด้วยโมโนแซ็คคาร์ไดด์หลายๆ ตัวที่เชื่อมต่อกันด้วยการเชื่อมต่อโคลลิงค์ โอลิโกสิแอคซ์มีจำนวนโมโนแซ็คคาร์ไดด์น้อยกว่าโปลิโอสแอคซ์ โปลิโอสแอคซ์ประกอบด้วยโมโนแซ็คคาร์ไดด์มากมาย โครงสร้างนี้ทำให้น้ำตาลแบบนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น และสามารถทำให้ร่างกายได้รับพลังงานในระยะยาว
  2. น้ำตาลแบบ Polysaccharides: น้ำตาลแบบนี้มีโครงสร้างที่ซับซ้อนที่สุด และเป็นรูปแบบของน้ำตาลที่พบในรวมถึงข้าว ขนมปัง และธัญพืช โดยมีโปลิโอสแอคซ์หลายๆ โมโนแซ็คคาร์ไดด์ที่เชื่อมต่อกันเป็นโคลลิงค์ใหญ่ เราย่อมเคยเรียกน้ำตาลแบบนี้ว่า “น้ำตาลมีโตส” (Starch) หรือ “เซลลูโลส” (Cellulose) ขึ้นอยู่กับโครงสร้างและการเชื่อมต่อโมโนแซ็คคาร์ไดด์
น้ำตาลถือกำเนิดขึ้นเมื่อใด

น้ำตาลถือกำเนิดขึ้นเมื่อใด

น้ำตาลถูกคิดค้นและใช้งานมาเป็นเวลาหลายพันปี ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดเนื่องจากมีประวัติและบันทึกข้อมูลที่ไม่แน่นอนในอดีตกาล แต่น้ำตาลเป็นสิ่งที่มีความหลากหลายที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยกระบวนการการผลิตที่แตกต่างกันออกไปแต่ละวัฒนธรรม

น้ำตาลที่หาได้แบบธรรมชาติ เช่น น้ำตาลอ้อยและน้ำตาลจากมะพร้าว น้ำหวานจากพืชทั้งสองนี้มีประวัติการใช้งานในภูมิภาคต่าง ๆ โดยการสกัดน้ำตาลจากต้นอ้อยอาจจะมีมาตั้งแต่ระหว่างช่วงปี 6000 ถึง 8000 ปีก่อนคริสต์ศตวรรษ ซึ่งตามการคาดเดาอาจเกิดที่แรกจากอินเดียหรือจีน ซึ่งเป็นสองประเทศที่เรืองอำนาจลีความทันสมัยที่สุดในเอเชีย ณ เวลานั้น

นอกจากนี้ น้ำตาลเทียมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์น้ำตาลที่สร้างขึ้นโดยกระบวนการเคมีเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมและอาหาร อาจมีการคิดค้นในปีที่มาก่อนการคิดค้นน้ำตาลแบบธรรมชาติ แต่ข้อมูลแน่ชัดไม่ค่อยมีในประวัติศาสตร์ การคิดค้นน้ำตาลเทียมถูกพัฒนาขึ้นในปี 1800s และได้รับการใช้งานและพัฒนาต่อยอดตลอดเวลาในอุตสาหกรรมและอาหารในปัจจุบัน

ประโยชน์ของน้ำตาล

น้ำตาลมีบทบาทในการให้ความหวานในอาหารของเรา มันสามารถสกัดได้จากธรรมชาติ เช่น อ้อย, ตาลโตนด, และมะพร้าว นอกจากนี้ยังมีพืชอื่น ๆ เช่น บีตรูต, ข้าวโพด, เมเปิล, และผลปาล์มที่สามารถสกัดมาใช้ทำน้ำตาลได้

นอกจากนี้ยังมีน้ำตาลเทียมที่ใช้แทนน้ำตาลทั่วไป เช่น หญ้าหวาน น้ำตาลนอกจากที่จะเสริมรสชาติให้อร่อย ยังมีประโยชน์สำคัญต่อร่างกาย เช่น ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี, รักษาแผลในปาก, บรรเทาอาการปวด, ลดความเครียด, และช่วยดับร้อน ถอนพิษ แก้อาการอักเสบ รวมถึงแก้เจ็บคอและรักษาอาการไอมีเสมหะ

น้ำตาลทรายขาวที่ละลายกลายเป็น “น้ำเชื่อม” ยังมีประโยชน์ในการรักษาแผลเน่าเปื่อย ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และสำหรับสาว ๆ ที่มีอาการปวดประจำเดือนหรือประจำเดือนมากเกินไป น้ำตาลทรายแดงผสมกับน้ำอุ่นๆ สามารถช่วยลดบรรเทาการปวดท้องจากประจำเดือนได้

ควรระวังกับน้ำตาล

ควรระวังกับน้ำตาล

แม้ว่าน้ำตาลมีประโยชน์มากมาย การบริโภคน้ำตาลในปริมาณมากเกินไปอาจมีผลเสียต่อร่างกาย อาจทำให้รู้สึกง่วงและเป็นตัวเริ่มต้นของอาการภาวะนอนไม่หลับ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, และวัณโรค เรายังต้องระมัดระวังเรื่องของสุขภาพช่องปาก เนื่องจากน้ำตาลที่สะสมในช่องปากอาจทำให้เกิดฟันผุและความหวานคือแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นปาก

ควรระวังกับน้ำตาล

สรุป

แม้ว่าจะน้ำตาลจะมีต่อร่างกายแต่อย่างก็ตามการรับมาในปริมานเกินความจำเป็นก็ย่อมส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะโยธรรมชาติของอาหารแล้วจะมีน้ำตาลเป็นส่วนประกบซึ่งร่างกายเองก็สามารถดึงมันออกมาใช้งานได้อย่างเพียงพอ จึงไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่จะต้องเติมความหวานจากผลิตภัณฑ์สมัยใหม่ที่หลอกให้เราบริโภคอยู่ในทุกวันนี้ และทั้งหมดที่เรานำมานี้คือ ประโยชน์ของน้ำตาลที่คุณอาจไม่รู้ เพราะน้ำตาลมีดีแต่ควรต้องทานให้พอดีจึงจะมีประโยชน์สูงสุด

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG

Tag
4ประเทศที่มีค่าสกุลเงินต่ำกว่ารูปีอินเดีย (1) 4ร้านสุดปังในเมียงดง (1) 5หนังสือแนะนำ ที่ผู้ประกอบการควรอ่าน (1) 7 ประเทศที่มีประชากรมากที่สุด (1) 7 สวนสนุกร้างในญี่ปุ่นที่คุณต้องไม่พลาด (1) 7 สิ่งมหัศจรรย์ในตำนานที่หายไป (1) 7วิธีการทำสมาธิที่เหมาะกับคุณ (1) 8 สถานที่ สัมผัสงานหัตถกรรมแบบเกียวโต (1) 8 สถานที่แรงบันดาลใจ ตามรอยการ์ตูนค่าย Studio Ghibli (1) 8 สัญญาณบ่งบอกว่าคุณขาดวิตามิน (1) 8 สิ่งที่วิศวกรทุกคนต้องการบนโต๊ะทำงาน (1) 8 อาหารสุดแปลกในแถบเอเชีย (1) 9 ความลึกลับใต้น้ำที่ถูกค้นพบ (1) 10 วิธีควบคุมอารมณ์โกรธ (1) 10 อันดับส่วนผสมทำเค้กที่คุณอาจนึกไม่ถึง (1) 10 อาหารที่ถูก และดีต่อสุขภาพ (1) 10 เมืองน่าเที่ยวที่ทำให้คุณมีความสุข (1) 10 ไอเดียเขียนไดอารี่ที่จะทำให้คุณมีความสุขและใจเย็นมากขึ้น (1) ขนตูดมีไว้ทำไม (1) ข้อควรรู้ เลือกเครื่องซักผ้า ฝาล่างหรือฝาบน (1) คาเฟ่หอมหวานที่เชิงหว่าน at ฮ่องกง (1) จริงหรือไม่ที่ฉลามสายตาไม่ดี (1) ตัวหอมด้วยการกิน (1) ประเทศอินเดีย (1) ผลไม้สุขภาพดี (1) ผลไม้อบแห้ง ขนมยอดฮิตใน TIKTOK (1) พิธีกรรมเสริมความงามสาวอินเดีย (1) มารู้จัก โรคหน้านิ่ง จนคิดว่าหยิ่ง (1) รวมมีมแมวที่ชาวเน็ตใช้กันมากที่สุด (1) รอยสัก (1) รู้หรือไม่ เข็มแทงน้ำเกลือไม่ได้ฝังอยู่ในมือ (1) ลายสัก (1) วัฒนธรรมสักลาย ไทย ญี่ปุ่น เมาคลี (1) ออกกำลังกาย (1) อาหารแปลก (1) เกร็ดความรู้ (28) เครื่อง แปลภาษา (1) เคล็ดลับการตื่นเช้าให้สดชื่นที่คุณควรรู้ (1) เคล็ดลับต่างๆ (35) เคล็ดลับทำให้ดูเด็ก (1) เคล็ดลับสร้างความสุข (1) เที่ยวรอบโลก ด้วยเครื่อง 42 แปลภาษา (1) เมเฮนดี (1) เรื่องน่ารู้ (146) แมวน่ารัก (1)