มันคงไม่ง่ายเลยกับยุคสมัยนี้ที่จะสามารถหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำด้วยระยะเวลาอันรวดเร็วนอกเสียจากว่าคุณจะทำในสิ่งผิดกฎหมาย เช่น ค้ายา ปล้น อื่นๆ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสามารถทำเช่นนั้นได้ แต่หากมองย้อนกลับไปในอดีตมีหลายแหล่งข่าวจากทั่วโลกที่พูดถึงเหตุการณ์ปล้นธนาคาร ซึ่งก็มีทั้งที่ตามจับได้และจับไม่ได้ หลายครั้งที่เรามักจะได้ยินคำกล่าวว่าจะปล้นธนาคารซึ่งเป็นคำพูดติดตลกที่เราก็รู้ดีว่าคงจะไม่ทำจริงๆ หรือหากคิดจะทำจริงๆก็คงไม่ง่ายเพระคุณต้องรู้สิ่งนี้ ก่อนคิดปล้นธนาคาร
จากบทเรียนในอดีตของธนาคารทั่วโลกทำให้เกิดมาตรการการป้องกันที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าหากคิดแหยมเข้าไปก็ดูจะเป็นการเอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่าๆ และคุณอยากรู้หรือไม่ว่าธนาคารมีวิธีการป้องกันตัวเองอย่างไร และแน่นอนว่ามันคงไม่ง่ายเหมือนการเดินดุ่มเข้าไปปล้นแบบในหนังอย่างแน่นอน วันนี้เราจะมาบอกวิธีที่ธนาคารใช้ป้องกันตัว ซึ่งก็เป็นวิธีการทั่วไปที่สามารถเปิดเผยได้
1.รปภ.-ตำรวจ
แน่นอนว่าสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นนี้ต้องมีพนังงานรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา โดยเฉพาะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะแวะเวียนสลับกันมาสังเกตุการณ์อยู่เสมอ และที่สำคัญธนาคารส่วนใหญ่มกตั้งอยู่ใกล้กับสถานีตำรวจ เมื่อคุณลงมือปล้นแล้วละก็คุณจะมีเวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นสำหรับการหลบหนี
ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) โดยส่วนมากในสมัยนี้มักจะมีอาวุธปืนประจำกาย ซึ่งเขาเล่านี้ก็มักถูกฝึกมาอย่างดี และส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นลูกจ้างโดยตรงของธนาคารและเป็นพนังงานของบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ต้องฝึกทักษะการป้องกันตัวมาอยู่แล้ว
2.กล้องวงจรปิด
แน่นอนว่ากล้องวงจรปิดคือส่วนสำคัญของสถานที่แห่งนี้ มันมีจำนวนเยอะมากแทบทุกมุม ไม่ใช่แค่ภายในแต่ภายนอกอาคารตลอดจนในรัศมีโดยรอบก็มีจำนวนไม่น้อย เรียกได้ว่ามันจะเก็บภาพคุณทุกซอกทุกมุมเลยทีเดียว
3.ซ่อน GPS ในเงิน
นี่เป็นวิธีการที่ถูกใช้กันมานาน โดยการแอบนำเครื่องติดตามใส่รวมไปในกระเป๋าเงิน แล้วคราวนี้ละไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนตำรวจก็จะตามตัวได้เสมอ ส่วนการจะตรวจหานั้นก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะมันสามารถถูกซ่อนไว้ได้ทั้งแบบฝังในกระเป๋า เจาะเงินแล้วฝัง หรืออื่นๆ
วิธีที่กล่าวมาก่อนหน้านั้นถูกใช้กันมาอย่างยาวนานแล้ว ซึ่งบางครั้งคนร้ายก็สามารถเล็ดรอดไปได้ทำให้การตามตัวนั้นยาก แต่วิธีการสมัยใหม่นี่รับประกันได้เลยว่าแทบจะร้อยทั้งร้อยต้องยอมจำนน และเงินที่ได้ไปก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกด้วย ซึ่งนั้นก็คือข้อถัดไป
4.ระเบิดสี
เป็นอุปกรณ์ชิ้นใหม่ที่ถูกใช้มาได้สักระยะใหญ่ โดยมันจะเป็นเครื่องมือชิ้นขนาดพอดีมือ มันจะถูกซ่อนกับตัวเงินด้วยการกรีดเจาะเป็นช่องและฝังในเงิน ละถูกใส่ปนกันไป ภายในจะมีกลไกการตั้งเวลาเอาไว้เมื่อเงินก้อนนี้ออกห่างจากสถานที่ที่กำหนดโดยนับเวลาถอยหลังมันจะระเบิดทันที บางรุ่นระเบิดออกเป็นสีน้ำเหลวๆ บางรุ่นระเบิดออกเป็นควันสี แต่ทั้งสองแบบนี้เมื่อมันระเบิดแล้วสีจะเคลือบไปกับเงินทุกใบ รวมถึงตัวโจรเองด้วย แล้วอย่าคิดว่าแค่ล้างจะออกได้ง่ายๆ เพราะต้องใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ถึงจะล้างออกหมด แต่ถึงกระนั่นก็ยังมีสามารถเคมีที่ยังคงติดอยู่กับผิวหนังและเมื่อถูกส่องด้วยแสงยูวีก็จะขึ้นเป็นแถบสีเห็นชัดอีกหลายเดือน ส่วนเงินที่ได้มานั้นก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้เพราะจะรู้ได้ทันทีว่านี่คือเงินที่ปล้นมา
นอกจากนี้ระเบิดในรุ่นที่เป็นควันยังสร้างความรบกวนให้แก่โจรเป็นอย่างมาก เช่น หากโจรใช้รถในการปล้นควันนี้จะแสดงตำแหน่งและเส้นทางกรหลบหนีได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญการเผาไหม้ของมันทำความร้อนสูงถึง 200 องศา หากคุณพกไว้ในกระเป๋ากางเกงละก็ได้ไหม้ขาแน่ๆ และแผลที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะสารเคมีที่ต้องรักษาโดยแพทย์ และเมื่อคุณเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลคุณก็จะถูกจับตัวอยู่ดี จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำให้มองไม่เห็นช่องทางเลยที่คุณจะรอดพ้นไปได้
สิ่งที่เรานำมาทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นวิธีการป้องกันตัวของธนาคารที่มีอยู่โดยทั่วไป ซึ่งภายในนั้นยังมีอะไรอีกมกมายที่ถูกปิดเป็นความลับ มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าปล้น และดูเหมือนว่าจะไม่คุ้มค่าเลยสักนิดที่จะเข้าไปเสี่ยงเพราะผลตอบแทนที่ได้ย่อมไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่จะตามมา จากสถิติการปล้นธนาคารที่เกิดขึ้นในไทยสิบปีไห้หลังมานี้ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่คนร้ายจะหนีรอดไปได้ สุดท้ายแล้วก็จบลงที่คุกกันทุกราย
สรุป
จากบทความ ต้องรู้สิ่งนี้ ก่อนคิดปล้นธนาคาร แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวและเรียนรู้ของธนาคารที่มีมาตั้งแต่อดีต ซึ่งนำมาเปิดเผยได้แค่เพียงบางส่วนเท่านั้น เพื่อให้ทุกท่านตระหนักคิดทุกครั้งก่อนตัดสนใจทำสิ่งที่ผิดพลาด และที่สำคัญในธนาคารเป็นสถนที่ความปลอดภัยสูงเช่นเดียวกับสนามบิน จึงควรระวังคำพูดเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากปากไม่ดีพูดเล่นมั่วๆอาจได้นอนคุกเล่นๆก็เป็นได้