หากคุณไม่ใช่คนที่ชอบตื่นเช้าหรือรู้สึกหนักใจกับความรู้สึกในตอนเช้า ความรู้สึกเหล่านั้นบางครั้งทำให้ประสิทธิภาพ การทำสิ่งต่างๆในตอนเช้าลดลง กับบางคนอาจไม่ใช่ปัญหาแต่บางคนคือปัญหาใหญ่ของพวกเขา 8 วิธีทำให้ตอนเช้าสดใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพียงแปดวิธีง่ายๆที่ช่วยในทุกเช้าของคุณให้ดีขึ้นได้(โดยเฉพาะจิตใจ)
1. พักผ่อน
คำตอบเดิมที่ได้ยินบ่อยๆแต่มันเป็นเรื่องจริง และควรค่าแก่การทำ เช้าที่ดีเริ่มต้นด้วยการนอนหลับเต็มอิ่มในคืนก่อนหน้า พูดง่ายๆ คุณต้องเข้านอนตรงเวลา โดยหลีกเลี่ยงคาเฟอีนในช่วงเย็น กินอย่างน้อยสามหรือสี่ชั่วโมงก่อนนอน ดื่มชาคาโมมายล์ครึ่งถ้วยหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้านอน ยืดกล้ามเนื้อและปิดหน้าจอและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนนอน เปิดไฟสลัวเพื่อสร้างบรรยากาศ แนะนำให้อาบน้ำอุ่นหรือทำตัวให้อุ่น ทำแบบนี้ให้เป็นนิสัย มันจะช่วยให้คุณหลับสบายในทุกคืนและตื่นมาพร้อมกับเช้าที่สดใส
2. มุ่งมั่นที่จะตื่นนอน
หากคุณไม่สามารถตื่นนอนตรงเวลาทุกเช้า ดูว่ามีอะไรที่คุณสามารถทำได้เพื่อปรับตารางเวลาของคุณ จากข้อแรกที่พยายามนอนให้เพียงและตรงเวลาทุกครั้ง ค่อยๆทำอย่ากดดันตัวเอง มันไม่ดีต่อสุขภาพ สัญญากับตัวเองว่าคุณจะตื่นนอนเมื่อนาฬิกาปลุกดังเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และตั้งปลุกในเวลาที่เหมาะสม ทำห้าวันติดต่อกัน (นอนให้ตรงเวลาในคืนก่อนหน้า) และดูว่าตอนเช้าของคุณเปลี่ยนไปอย่างไร ถ้าต้องตื่นเพื่อไปทำกิจวัตรต่างๆให้ทัน ควรไปโฟกัสที่การนอนเวลาไหนที่จะนอนแล้วพอเพื่อตื่นในเช้าถัดไปได้ทันเวลา
3. เงียบไว้
ปิดทีวี เครื่องมือสื่อสาร อะไรก็ตามที่ดังและน่ารำคาญต้องถูกปิดในตอนนี้ สิ่งนี้เรียกว่า “กีดกันโลก” และเป็นกลวิธียอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมการพักผ่อนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีเช้าที่สดใสให้ได้
4. ดื่มน้ำ
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยน้ำแก้วใหญ่ (ฉันเติมน้ำมะนาวออร์แกนิกครึ่งลูกเพื่อเพิ่มรสชาติ วิตามินซี 1 ช็อต ช่วยกระตุ้นการทำความสะอาดตับ) ช่วยให้ร่างกายของคุณได้ล้างสารตกค้างอยู่ในไตตั้งแต่วันก่อน เติมน้ำและย่อยอาหารของคุณ พร้อมความสดชื่น
5. อย่าตื่นมาเล่นมือถือเป็นอย่างแรก
การตื่นมาจับมือถือเลยก่อนลุกจากเตียงอาจทำให้คุณได้รับความเครียดหรือประมวลผลผิดพลาดก่อนจะไปทำงาน เนื่องจากสมองของคนส่วนใหญ่ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการตื่น ให้ช่วงเช้าของคุณเป็น “เวลาของคุณ” หรือสำหรับคุณและครอบครัวเพียงลำพัง ชั่วโมงแรกของคุณในแต่ละวันไม่ควรเกี่ยวกับการทำงาน โดยปกติแล้ว คนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ไม่เคยเช็คอีเมลหรือโทรศัพท์เป็นอย่างแรก
6. ยืดเหยียดและเคลื่อนไหว
การใช้เวลาห้านาทีกับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อหรือเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโยคะหรืออย่างอื่น จะทำให้ร่างกายของคุณสดชื่นตื่นตัวอยู่ตลอดทั้งวัน และเลือดจะไหลเวียน นั่นจะช่วยให้คุณมีโอกาสที่จะทำอะไรในระหว่างวันได้มากขึ้น โยคะและการทำสมาธิมีการกำหนดลมหายใจ มันอาจจะช่วยให้คุณมีสมาธิซึ่งมีประโยชน์ในระหว่างวันอย่างมาก ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการเคลื่อนไหวตอนเช้าและรวมกับการทำสมาธิดังที่กล่าวไป ถ้าคุณไม่ชอบการออกกำลังกายหนักๆในตอนเช้า แค่ยืดเหยียดหรือโยคะ 5 – 10 นาทีก็เพียงพอต่อการเริ่มวันใหม่แล้วและรู้สึกดีขึ้น
7. นั่งสมาธิ
ที่บอกไว้ในข้อก่อนหน้านี้ หลายคนอาจไม่เคยทำหรือคิดว่าไม่มีเวลาทำ แต่มันมีประโยชน์ที่พิสูจน์แล้วทั้งสำหรับการนอนที่สบายและการเริ่มวันใหม่ด้วยความสงบ และการทำสมาธิไม่ได้หมายถึงการนั่งทำสมาธิอย่างจริงจังก็ได้ มันเป็นเพียงเสี้ยวเวลาของทุกวัน ในระหว่างที่คุณหายใจเข้า และทำใจให้ปลอดโปร่งสำหรับวันข้างหน้า คุณสามารถรวมเข้ากับการเคลื่อนไหว เช่น นั่ง ยืน เดิน หรือแม้แต่ทำสิ่งที่ต่างไปพร้อมกับทำสมาธิ เช่น ล้างจานหรือพับผ้า อะไรก็ตามที่เหมาะกับคุณ จงทำให้เป็นพิธีกรรมหรือนิสัยที่บ่งบอกว่าวันทำงานกำลังจะเริ่มต้น ร่างกายและจิตใจของคุณจะพร้อมสำหรับวันใหม่
8. กินหรือไม่กิน
บางคนจำเป็นต้องกินในตอนเช้า แต่ไม่ใช่ทุกคนต้องกิน แนวคิดที่ว่าเราควรกินอาหารเช้ามื้อใหญ่ๆ ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไม่จริง เช่นเดียวกับแนวคิดที่ว่าการไม่ทานอาหารเช้าจะทำให้คุณอ้วน แต่บางคนต้องการการเริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้า อยู่ที่ตัวคุณว่ากินอาหารเช้าแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นหรือเปล่า ตัดสินด้วยตัวคุณเองว่ารู้สึกดีขึ้นเมื่อทานอาหารภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากตื่นนอนหรือไม่
สรุป 8 วิธีทำให้ตอนเช้าสดใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณอาจคิดว่าทั้งหมดนี้มากเกินไปที่จะทำในตอนเช้าหรือเสียเวลาหากต้องทำมัน ลองใช้วิธีเหล่านี้ดูก่อน แล้วคุณจะพบว่ากิจวัตรยามเช้าของคุณอาจเปลี่ยนชีวิตคุณได้ และคุณจะเห็นเช้าที่อยากตื่น สดใสและมีประสิทธิภาพอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน thaiguru