เครื่องซักผ้านับว่าเป็นอีกเครื่องใช้ไฟฟ้าหนึ่งที่แต่ละบ้านจะขาดเสียไม่ได้ เพราะการจะออกไปใช้บริการร้านซักก็ย่อมต้องจ่ายเพิ่มกว่าซักด้วยตัวเองที่บ้าน แต่ครั้นจะให้ซักมือเหมือนแต่ก่อนก็คงเป็นไปได้ยาก ด้วยเวลาที่มีอย่างจำกัดของรูปแบบการใช้ชีวิตในคนรุ่นใหม่ ฉะนั้นการมีเครื่องซักผ้าซักเครื่องนึงก็นับว่าเป็นการแบ่งเบาภาระได้เป็นอย่างดี ทว่า สิ่งที่จะตามมาก็คือภาระการดูแลบำรุงรักษาและอื่นๆอีกตามอายุการใช้งาน แต่ถ้าหาก ไม่อยากให้เครื่องซักผ้าพังไว อย่าทำแบบนี้
5 สิ่งไม่ควรทำ เพื่อยืดอายุการทำงานของเครื่องซักผ้า
การบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างดีไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีวันพัง แต่มันจะช่วยให้ระยะเวลาที่จะต้องซ่อมบำรุงมาถึงได้ช้าลง หรืออย่างน้อยก็ช่วยให้ต้องควักค่าใช้จ่ายน้อยลงนั่นเอง และ 5 คำแนะนำที่เรานำมาเสนอนี้เราก็หวังว่าจะเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระและยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าของคุณได้ กับการดูแลรักษาเครื่องซักผ้าดังต่อไปนี้
1.ไม่เสียบปลั๊กเครื่องซักผ้าร่วมกับปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น
การเสียบปลั๊กเครื่องซักผ้าร่วมกับปลั๊กพ่วงอื่น (daisy-chaining) อาจเกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและเสี่ยงให้เกิดอาการเสียหายต่อเครื่องซักผ้า ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้
- ภาระไฟฟ้าที่เกินกำลังรับ เครื่องซักผ้ามีการใช้ไฟฟ้ามากกว่าอุปกรณ์พื้นฐานอื่น ๆ ในบ้าน ถ้าเราเสียบปลั๊กเครื่องซักผ้าและปลั๊กพ่วงของอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ไฟฟ้าเสริมเข้าด้วยกันจะทำให้เกิดภาวะไฟเกิน
- ความปลอดภัย การเสียบปลั๊กเครื่องซักผ้าร่วมกับปลั๊กพ่วงอื่น ๆ อาจทำให้เกิดสายไฟที่หดตัว หรือเกิดความร้อนในสายไฟซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอัคคีภัย เช่น ไฟไหม้
ดังนั้น การเสียบปลั๊กเครื่องซักผ้าร่วมกับปลั๊กพ่วงอื่น ๆ ไม่เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและไม่ควรทำ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแก่คุณเองและอุปกรณ์อื่น ๆ ในบ้านของคุณ
2.ไม่ควรใส่เสื้อผ้าเกินความซักของเครื่องซักผ้า
การใส่เสื้อผ้าหรือของในเครื่องซักผ้าเกินความจุที่ออกแบบมา อาจทำให้เกิดปัญหาและอันตรายต่อเครื่องซักผ้ารวมถึงเนื้อผ้าได้ ดังนี้
- การทำงานของเครื่องซักผ้า เครื่องซักผ้าถูกออกแบบมาให้มีความจุตามที่กำหนด การใส่เสื้อผ้าเกินความจุทำให้เครื่องซักผ้าทำงานอย่างหนักเกินไป ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและเสียงดัง ทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องซักผ้าเอง
- ความปลอดภัย การใส่เสื้อผ้าเกินความจุอาจทำให้เครื่องซักผ้าไม่สามารถทำงานได้ตามประสิทธิภาพที่กำหนด ทำให้เกิดความร้อนมากขึ้นในเครื่องซักผ้า และอาจทำให้เกิดอัคคีภัย
เพื่อป้องกันการเสียหายและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ควรใส่เสื้อผ้าในเครื่องซักผ้าในขีดความจุที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งมักถูกกำหนดไว้ในคู่มือการใช้งานของเครื่องซักผ้า การใช้งานตามข้อกำหนดจะช่วยให้เครื่องซักผ้าทำงานได้ตามประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานอีกด้วย
3.อย่าปล่อยให้เครื่องซักผ้าสกปรก
การปล่อยให้เครื่องซักผ้าสกปรกอย่างต่อเนื่อง ๆ อาจเกิดผลกระทบและความเสียหายทั้งในเรื่องความปลอดภัยและความพร้อมใช้งาน ดังนี้
- ความเสียหายต่อเครื่องซักผ้า การให้เครื่องซักผ้าทำงานต่อเนื่องๆ หรือไม่ปิดเครื่องเมื่อไม่มีคนดูแล อาจทำให้เครื่องซักผ้าเสียหายได้ รวมถึงยังสามารถส่งผลให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องซักผ้าและการทำงานของระบบอาจเกิดการเสียหาย
- ถอดเครื่องมาล้าง ขั้นตอนนี้อาจต้องใช้ช่างในการทำงาน เพราะคราบสกปรกที่สะสมอยู่ในตำแหน่งที่มองไม่เห็นจะทำให้ผ้าไม่สะอาดและเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
ดังนั้น จึงควรหมั่นทำความสะอาดและดูแลเครื่องซักผ้าอย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของคราบอันเป็นที่มาของสิ่งสกปรก
4.ไม่ควรใส่ผงซักฟอกมากเกินไป
การใส่พงซักฟอกเกินในเครื่องซักผ้าอาจทำให้เกิดปัญหาและความเสียหายทั้งในเรื่องความปลอดภัยและความพร้อมใช้งาน ดังนี้
- ความปลอดภัย การใส่พงซักฟอกเกินในเครื่องซักผ้าอาจทำให้เครื่องซักผ้าไม่สามารถทำงานได้ตามประสิทธิภาพ อีกครั้งฟองที่ออกมาอาจทำให้ระบบวงจรไฟฟ้าของเครื่องเกิดความเสียหาย
- ประสิทธิภาพในการซักผ้า เมื่อใส่พงซักฟอกเกินในเครื่องซักผ้าอาจทำให้เกิดความเสียหายกับเสื้อผ้าเอง นอกจากนี้ยังอาจเสียเวลาและพลังงานในการต้องทำการซักซ้ำหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ดังนั้น การใส่พงซักฟอกในเครื่องซักผ้าควรใส่ให้เหมาะสมที่สุดในขีดความจุที่เครื่องซักผ้ากำหนด และควรปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานเพื่อให้เครื่องซักผ้าทำงานได้ตามประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน
5.ควรเอาสิ่งของออกจากกระเป๋าก่อน
การเอาสิ่งของออกจากกระเป๋าก่อนนำผ้าใส่เครื่องซักผ้าเป็นเพื่อประโยชน์ในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยของเครื่องซักผ้า ได้ดังนี้
- ช่วยซักผ้าให้สะอาดหมดจด การเอาสิ่งของออกจากกระเป๋าก่อนซักผ้าช่วยให้เราสามารถตรวจสอบและแยกเสื้อผ้าที่ต้องการซักได้ ซึ่งอาจช่วยลดปริมาณผ้าและช่วยให้ผ้าซักสบายมากขึ้น
- ป้องกันการติดขัด โดยเฉพาะเหรียญที่มักจะเข้าไปติดอยู่ตามซอกของเครื่องซักผ้า และนั่นก็เป็นปัญหาใหญ่ที่ให้เครื่องซักผ้าเสียหาย
ดังนั้น การตรวจสอบสิ่งของการการซักจึงมีประโยชน์เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังช่วยป้องกันการลืมสิ่งของสำคัญอื่นๆในกระเป๋าอีกด้วย
สรุป
และทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับดีๆที่ควรนำไปใช้ เพราะหากคุณ ไม่อยากให้เครื่องซักผ้าพังไว อย่าทำแบบนี้ เพื่อยืดอายุการทำงานของเครื่องซักผ้าให้ยาวนานขึ้น คุณจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปกับอะไรที่จำเป็นอีกต่อไป