หลายๆ คนมักมีอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย มีอาการง่วงนอน ร่างกายไม่สดชื่นหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า ทำให้หลายๆ คนต้องหยุดเสียงนาฬิกาปลุกของตัวเองแล้วงีบต่อเป็นเวลาหลายนาที หรืออาจเป็นชั่วโมง จนท้ายที่สุดเข้างานล่าช้าเนื่องจากตื่นสายเป็นเหตุ และนอกจากนี้ยังส่งผลกระทบให้ร่างกายของเราไม่เกิดความกระปรี้กระเปร่าในระหว่างวันได้ ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เนื่องจากกระบวนการทางความคิด หรือการตัดสินใจนั้นล่าช้า และทำให้เกิดการแปรปรวนทางอารมณ์อีกด้วย
หากใครประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ เรามีเคล็ดลับการตื่นเช้าให้สดชื่นที่คุณควรรู้ดังต่อไปนี้
1.ดื่มน้ำ 1 แก้วหลังจากการตื่นนอน
ผู้คนส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าในขณะที่เรานอนหลับอยู่นั้น ร่างกายยังต้องทำงานอยู่ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระบบการย่อยอาหาร ระบบทางเดินหายใจ กระบวนการจัดระเบียบความทรงจำ การปรับสมดุลฮอร์โมน หรือแม้แต่การขจัดของเสียในสมองเป็นต้น นั่นหมายถึงเราสูญเสียน้ำในร่างกายมากในขณะที่เรานอนหลับ ดังนั้นเราควรดื่นน้ำหลังจากตื่นนอนเพื่อให้ร่างกายสดชื่น พร้อมที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ในตอนเช้า
เคล็ดลับ : ควรดื่มน้ำ 1-2 แก้ว, หากคุณรู้สึกว่าการลุกจากเตียงเป็นเรื่องที่ยาก ให้คุณวางขวดน้ำไว้โต๊ะข้างเตียงก่อนนอน จะทำให้คุณตื่นมาพร้อมกับดื่มน้ำได้ทันทีโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องลุกจากเตียง
2.ยืดหยุ่นร่างกายด้วยโยคะ
ขณะที่เรานอนหลับในช่วงเวลากลางคืน ร่างกายของเรามีการขยับน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีการขยับเลยราวกับว่าร่างกายของเราเป็นอัมภาตชั่วขณะ (Literally Paralyzed) ซึ่งการยืดหยุ่นร่างกายด้วยวิธีการบิดตัวง่ายๆ หรือการทำโยคะจะทำให้กล้ามเนื้อเราตื่น และร่างกายหลั่งสารเอ็นโดฟินเพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดการกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย
เคล็ดลับ : หากคุณมีเวลาตอนเช้าลองฝึกทำโยคะประมาณ 25 นาที เพื่อให้ร่างกายยืดหยุ่น และยังเป็นการฝึกสมาธิอีกด้วย
3.ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและใช้ได้ผลทุกครั้ง การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นจะทำให้อุณหถูมิในร่างกายเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ลุกจากเตียงยากลองนำขวดสเปรย์น้ำแร่มาตั้งไว้ที่โต๊ะข้างเตียง เพียงแค่คุณตื่นมา และพ่นน้ำแร่ให้ทั่วใบหน้า คุณก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที
เคล็ดลับ : ในประเทศญี่ปุ่นคนส่วนใหญ่มากใช้แผ่นมาร์คหน้าในตอนเช้าด้วยผลิตภัณฑ์ Saborino’s Morning Face Markนอกเหนือจาการที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นในตอนเช้าแล้ว การมาร์คหน้ายังเป็นการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าอีกด้วย
4.รับประทานอาหารเช้าที่มีพลังงานที่ดี
การรับประทานอาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยในงานวิจัยพบว่าการไม่รับประทานอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายไม่กระปรี้กะเปร่า อีกทั้งยังทำให้กระบวนการทางความคิดหรือการตัดสินใจนั้นทำงานล่าช้าอีกด้วยเนื่องจากร่างกาย และสมองไม่ได้รับพลังงาน ดังนั้นอาหารเช้าคือแหล่งพลังงานที่สำคัญที่สุด
เคล็ดลับ : อาหารเช้าที่ควรรับประทานมีดังนี้ โปรตีนที่มีไขมันต่ำ (ไข่ อกไก่ ปลาแซลมอล) ธัญพืช ถั่ว และผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย (แอปเปิ้ล กล้วย)
5.ออกกำลังกาย
สำหรับวิธีนี้เป็นวิธีที่ยากสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ฝึกทำในช่วงแรก แต่การออกกำลังกายนั้นเป็นวิธีที่ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ตื่นขึ้น และมีความความกระฉับกระเฉงอย่างรวดเร็ว การออกกำลังกายด้วยวิธีคาร์ดิโอ (Cardio) จะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดี และยังทำให้เกิดการหลั่งสานเอ็นโดฟินทั่วร่างกาย
เคล็ดลับ : หากคุณไม่ชอบวิ่ง เพียงแค่คุณกระโดดเชือก 800 – 1,000ครั้ง หรือกระโดดตบ โดยเวลาที่ใช้ในการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั้นควรใช้เวลาประมาณ 20 -30 นาที
6.ฝึกเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา
หากเราอยากจะตื่นเช้าให้เป็นเวลา เราควรเริ่มฝึกนอนให้เป็นเวลาก่อน โดยปกติแล้วร่างกายต้องการเวลาพักผ่อนประมาณ8 ชั่วโมง หากเรารู้ตัวแล้วว่าเราจะต้องตื่นเช้า เราควรกะเวลานอนให้เร็วขึ้น สำหรับบางคนการเข้านอนในเวลา 3 – 4 ทุ่มนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ดังนั้นเราควรฝึกการเข้านอนด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- ไม่เล่นโทรศัพท์ หรือดูทีวีก่อนเข้านอนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- นอนให้ตรงเวลาในทุกๆ คืน โดยอาจจะใช้วิธีตั้งนาฬิกาแจ้งเตือน
- ทำความสะอาดที่นอนอยู่เสมอ เพื่อให้ร่างกายสบายตัวในขณะที่เราเอนตัวลงนอน
นอกจากนี้ในทุกๆ เช้าเราควรฝึกตื่นนอนให้เป็นเวลาอีกด้วย ทำให้ร่างกายของเรานั้นเกิดความเคยชิน คุณควรฝึกการเข้านอน และตื่นนอนแบบนี้ทุกๆ วัน รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย
เคล็ดลับการตื่นเช้าให้สดชื่นจะได้ผลนั้น คุณควรมีวินัยกับตนเอง thaiguru และฝึกทำอย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่นี้คุณก็จะตื่นเช้าและสดชื่นกับเช้าวันใหม่ในทุกๆ วัน
แหล่งข้อมูล : https://www.healthline.com