ใครมีปัญหาเรื่องกลิ่นตัวกันบ้าง ? เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นตัว ทำให้เราขาดความมั่นใจในการดำรงชีวิตในแต่ละวัน โดยปกติแล้วเราจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สบู่อาบน้ำ โคโลนดับกลิ่นตัว หรือน้ำหอม เป็นต้น ผลิตภัณฑ์พวกนี้ใช้ได้ผลกับหลายๆ คน แต่สำหรับบางคนก็ยังมีปัญหาเรื่องกลิ่นตัวอยู่ ซึ่งเราอาจจะแก้ไขปัญหาผิดจุดนั่นเอง ของเสียที่ออกมาจากร่างกายบ่อยที่สุดนั่นคือ เหงื่อ ดังนั้นเราควรแก้ไขปัญหากลิ่นตัวด้วยการเลือกรับประทานอาหาร โดยในบทความนี้จะยกตัวอย่างอาหาร 6 ชนิดที่เราควรรับประทาน
1.ปลาเนื้อขาว
นักโภชนาการทางด้านอาหาร จิม ไวท์ (Jim White) ได้กล่าวไว้ว่าการรับประทานเนื้อแดงไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อไก่นั้นทำให้มีกลิ่นตัว เนื่องจากเนื้อแดงเหล่านี้เป็นอาหารที่ย่อยยาก ซึ่งอาจจะเหลือกากอาหารตกค้างในลำไส้เป็นเวลานาน ทำให้เวลาที่สารเอนไซน์ในลำไส้ย่อยกากอาหารที่ตกค้างจนกลายมาเป็นของเสียในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุจจาระ ปัสสาวะ หรือแม้แต่เหงื่อส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นออกมา โดยเฉพาะเหงื่อที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวนั่นเอง ดังนั้นเราควรหันมารับประทานปลาเนื้อขาวแทน (ปลาหิมะ ปลาตัวแบน ปลานิล) เนื่องจากปลาเนื้อขาวย่อยง่ายกว่าเนื้อแดง
2.ขึ้นฉ่าย
ขึ้นฉ่ายเป็นผักที่มีกากใยสูงมีหน้าที่ช่วยย่อยอาหาร และยังเป็นแหล่งรวมของวิตามินเค สารโฟเลต แมกนีเซีม และโพแทสเซียม แต่สำหรับบริเวณก้านของขึ้นฉ่ายนั้นจะมีสารแอนโดรสเตอโนน และสารแอนโดรสเตอนอล ซึ่งเป็นสารที่ช่วยระงับกลิ่นตัว และกลิ่นปาก เนื่องจากสาร 2 ชนิดนี้เป็นสารฟีโลโมนบริสุทธ์ที่ถูกขับออกมาทางผิวหนังในรูปแบบของเหงื่อ ทำให้ไม่มีกลิ่นตัว
3.มะนาว
มะนาวเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และยังเป็นสารละลายที่เป็นตัวนำไฟฟ้าได้ดีอีกด้วย ในน้ำมะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย หากใครไม่อยากให้มีกากอาหารตกค้างในลำไส้ที่ทำให้ร่างกายเกิดกลิ่นเหม็น ลองดื่มน้ำมะนาวในตอนเช้าทุกวันเพื่อกระตุ้นระบบการขับถ่ายขับถ่ายให้ทำงาน นอกจากนี้หากใครรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของกระเทียม หัวหอม หรือเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง ให้ดื่มน้ำมะนาวหลังอาหารมื้อนั้นทันที เพื่อระงับกลิ่นปาก เนื่องจากน้ำมะนาวเป็นกรดมีหน้าที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากทำให้ไม่มีกลิ่นในช่องปาก
4.น้ำเปล่า
การขับถ่ายในตอนเช้าทุกวันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากคุณไม่อยากให้มีสารพิษตกค้างในร่างกาย ดังนั้นการดื่มน้ำเปล่า 2 แก้วหลังตื่นนอนทันที จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ทำให้ไม่เกิดสารพิษตกค้างที่ก่อให้เกิดกลิ่นตัว นอกจากนี้เราควรดื่มน้ำบ่อยๆ ในระหว่างวัน เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นในช่องปาก เนื่องจาน้ำมีคุณสมบัติที่ให้ความชุ่มชื่นกับร่างกาย และช่องปาก ดังนั้นการดื่มน้ำบ่อยๆ จะช่วยให้ช่องปากของเราไม่แห้ง ทำให้ไม่เกิดการรวมตัวของเชื้อแบคทีเรียในช่องปากนั่นเอง
5.ขิง
การดื่มน้ำขิงจะช่วยล้างสารพิษในลำไส้ และกระตุ้นการขับถ่ายอีกด้วย นอกจากนี้การดื่มน้ำขิงยังช่วยระงับกลิ่นในช่องปาก หากใครไม่สามารถดื่มน้ำขิงได้อันเนื่องจากมีรสขม ลองผสมกับน้ำมะนาวจะช่วยเพิ่มรสเปรี้ยว ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างสารพิษในลำไส้ได้ดีอีกด้วย
6.ชา
หลายๆ คนดื่มชากันจนเป็นเรื่องปกติเนื่องจากการดื่มชาร้อนนั้นช่วยลดความอ้วน แต่รู้หรือไม่ว่าชามีสารโพลีฟีนอลเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรียไม่ให้เจริญเติบโต และยังช่วยลดสารกำมะถันในร่างกายทำให้ไม่เกิดกลิ่นตัวอีกด้วย ข้อดีของชาเขียวคือ ช่วยขจัดคาบ หรือสิ่งสกปรกในช่องปาก ซึ่งช่วยระงับกลิ่นปาก และยังทำให้ลมหายใจสดชื่นอีกด้วย นอกจากนี้ขาเขียว และชาดำนั้นจะมีสารแทนนิกที่ช่วยให้เท้าของเราแห้ง ทำให้ไม่เกิดกลิ่นเท้า ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าน้ำส้มสายชู ดังนั้นหากใครไม่อยากมีกลิ่นเท้าลองแช่เท้าด้วยน้ำชาอุ่นๆ ประมาณ 10 นาที thaiguru แค่นี้ชาก็จะขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์